เมนู

 
 
พระครูพิมณฑ์วรกิจ
เจ้าอาวาสวัดใหม่คำวัน
 
 
 
 

 
 
 
 
 สถิติวันนี้ 44 คน
 สถิติเมื่อวาน 59 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
791 คน
6109 คน
123734 คน
เริ่มเมื่อ 2011-12-17



วัดใหม่คำวัน ต.ดงป่าคำ อ.เมือง จ.พิจิตร โทร.089-8585843 ,089-4609939

ตำนานพระราหู
ในตำนานการกำเนิดเทพยดานพเคราะห์ทั้ง 9 พระองค์
พระอิศวรทรงเป็นผู้สร้าง มีองค์หนึ่งทรงเป็นเทพอสูรที่มีฤทธิ์เดชร้ายกาจมากนัก
อานุภาพเป็นที่ยำเกรงของทวยเทพเทวาทั้งหลาย ด้วยไม่อาจต้านทานพลานุภาพของพระองค์ได้
นั้นคือ “พระราหูจอมอสุรินทร์” ซึ่งพระอิศวรเจ้าได้นำหัวผีโขมด จำนวน 12 หัวมาป่นให้เป็นเถ้าธุลี
จากนั้นห่อด้วยผ้าสีดำ เสกเป่าแล้วพรมลงด้วยน้ำอมฤต บัดดลบังเกิดขึ้นเป็นอสูรเทพนามว่า “พระราหู”  
พระราหูมีร่างกายใหญ่โตเหลือประมาณ ครึ่งบนเป็นเทพอสูร ครึ่งล่างเป็นงู
ทรงเดชานุภาพครอบงำได้ทั้งสามโลก เป็นที่เกรงกลัวต่อพระสุริยเทพ พระจันทราเทพ
นับเป็นเทพนพเคราะห์อันดับที่8 มีกำลังนพเคราะห์เป็น 12 เป็นเทพแห่งวันพุธกลางคืน
กาลต่อมา พระราหูได้แอบขโมยน้ำอมฤตเพื่อดื่มกินให้ตนเองเป็นอมตะ มีอำนาจเหนือเทพยดาทั้งหลาย
แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ซึ่งคอยระวังเรื่องนี้อยู่แล้วแอบรู้เห็นการกระทำของพระราหูเข้า
จึงทูลต่อพระนารายณ์ เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบ จึงทรงกริ้วนัก ขว้างจักรเข้าตัดกลางกายของพระราหู
แต่ดีที่ว่าพระราหูนั้นได้ดื่มกินน้ำอมฤตเข้าไปแล้วจึงหาสิ้นใจลงไม่ แม้มีครึ่งกายก็มีอำนาจท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นท่อนล่างมีลักษณะเป็นงูนั้น ได้กลายเป็นเทพยดาขึ้นใหม่อีกพระองค์หนึ่งนามว่าพระเกตุ
ทรงฤทธิ์เดชไม่แพ้กัน ถือว่าพระเกตุนี้เป็นเทพคุ้มครองดวงชะตา
ใครมีพระเกตุกุมลักษณ์คนนั้นมักปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
ส่วนพระราหูนั้นคิดแค้นใจในพระอาทิตย์และพระจันทร์มาเสมอที่แอบนำเรื่องที่ตนดื่มกินน้ำอมฤตไปทูลฟ้อง
จนเป็นเหตุให้ตนเองต้องโดนจักรพระนารายณ์ตัดร่างขาดเป็นสองท่อนเช่นนี้ เมื่อได้โอกาสเหมาะเมื่อใดพระราหูจึงเข้าจับพระอาทิตย์และพระจันทร์มากลืนกินทุกครั้ง
นอกจากนี้หลายท่านคงไม่เคยทราบว่าคำกล่าวขึ้นต้นก่อนสวดมนต์บทใดๆ ก็ตาม คือ นะโมตัสสะ
นั้นเป็นคำกล่าวนอบน้อมพระพุทธเจ้าที่เทพยดาหลายพระองค์ร่วมกันแต่งขึ้น จนกลายเป็นประโยค “นะโม ตัสสะ” ที่เราสวดกัน
ในบทดังกล่าวพระราหูเป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมรจนาบทคาถา
“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ”
คำว่า
“นะโม”        ผู้กล่าวคือ พญายักษ์สันตาคีรี
“ตัสสะ”        ผู้กล่าวคือ องค์สุรินทร์ราหู
“ภะคะวะโต”    ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาราชทั้งสี่ ได้แก่ ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรุฬปักษ์ และท้าวเวสสุวัณ
“อะระหะโต”     ผู้กล่าวคือ พระอินทร์ เป็นคำนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
“สัมมาสัมพุทธัสสะ”    ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาพรหมสหัมปติ
พระไตรปิฎกกล่าวว่า พระราหูจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่า พระนารทพุทธเจ้า
นับเป็นองค์ที่ห้าถัดจากพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า
 วิธีอธิษฐาน ถึงอสูรเทพราหู
เรื่องอิทธิฤทธิ์ของพระราหูนี้มีมากนัก แม้ว่าต่อมาจะเหลือร่างกายเพียงครึ่งเดียวแต่ก็ทรงตบะเดชะไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ยังสามารถเข้าบดบังพระอาทิตย์และพระจันทร์ได้ อำนาจในการบดบังพระอาทิตย์นี้ ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวสรรเสริญไว้ว่า แม้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงก็ยังมีพระราหูมาบดบังให้เยือกเย็น ท่านจึงว่าพระราหูนั้นมีคุณในการดับร้อนให้เป็นเย็น หรือมีอำนาจในการบังตาเป็นที่น่าอัศจรรย์
ในการอธิษฐานขอบารมีพระราหูที่ถูกต้องนั้นให้อธิษฐานอ้างเอาคุณพระศรีรัตนตรัยขึ้นก่อน จากนั้นอธิษฐานถึงพระราหูว่า ขออำนาจบารมีพระอสุรเทพบรมโพธิสัตว์เสด็จพ่อพระราหู จงมาโปรดแก่ลูกด้วยแล้วทำการอธิษฐาน ทั้งนี้เพราะพระราหูนั้นมีบารมีธรรมเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าว่าจะต้องสำเร็จมรรคผลโพธิญาณอย่างแน่แท้ การอธิษฐานอ้างถึงคุณงามความดีของพระราหูดังกล่าวมาสี้ถือว่าเป็นอาราธนาคุณของพระราหูทั้งด้านบุญฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ พร้อมกันในตัว เป็นสิริมงคลแก่ผู้ระลึกถึงยิ่งนัก
วิธีบูชาพระราหู
การบูชาพระราหูนั้นคตินิยมมักทำบูชากันในวันพุธกลางคืน เพราะถือว่าเป็นวันเวลาแห่งพระราหู เพราะราหูเป็นเทพนพเคราะห์ประจำวันพุธกลางคืนนั่นเอง การบูชาจึงมักเริ่มในวันพุธ หลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว หรือในเวลาค่ำ ของถวายจะใช้เป็นของดำ เพราะถือว่าเป็นสีแห่งพระราหูเช่นกันทั้งนี้เนื่องจากคติที่พระราหูมีกายดำ เป็นคราสหรือเงามือนั่นเอง ตั้งบูชากลางแจ้ง จุดธูป 8 ดอกบอกกล่าวท่องพระคาถาบูชาพระราหู ของดำที่ถวายพระราหูนั้นมักใช้ 8 อย่าง ที่เป็นเลข8 นั้น เพราะเลข8 หมายถึงพระราหู (พระราหูเป็นเทพนพเคราะห์องค์ที่8 ในจำนวน 9 พระองค์ด้วยกัน)
ส่วนของดำทั้ง 8 ที่ควรเอาไปบูชา มีดังนี้
1. ไก่ดำ ความหมายคือ คุ้ยเขี่ย ค้าขายดี
2. เหล้า ความหมายคือ ความกล้าในการเสี่ยง การลงทุนดี
3. กาแฟดำ ความหมายคือ คิดอะไรก็สมหวัง
4. เฉาก๊วย ความหมายคือ ความใจเย็นและมีความคิดรอบคอบ
5. ถั่วดำ ความหมายคือ ความเจริญรุ่งเรือง
6. ข้าวเหนียวดำ ความหมายคือ ความเหนียวแน่นในเรื่องการเงินและความรักครอบครัว
7. ขนมเปียกปูน ความหมายคือ การปูนบำเหน็จ รางวัลและความสำเร็จโชคลาภ
8. ไข่เยี่ยวม้า ความหมายคือ การวิ่งเต้น หรือการติดต่อให้ได้รับความสำเร็จ
ท่านที่หาของตามนี้ไม่ได้ ก็เปลี่ยนเป็นของดำอย่างอื่น เช่น องุ่นดำ งาดำ น้ำอัดลมสีดำก็ได้
ทั้งนี้ของดำทั้ง ๘ อย่างต้องให้สุกทั้งหมด (หมายถึงพร้อมกินหรือดื่มได้)
 
คาถาบูชาพระราหู
พระคาถาสุริยะบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติ
พระคาถาจันทบัพพา
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสกัง กาติยังมะมะ ยะติกา
คำถวายเครื่องสังเวยพระราหู
นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง สักการะวันทะนัง
สูปะพะยัญชะนะ สัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง
สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุปะริภุญชันตุ
สัพพะทา หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา มะหิทธิกา เตปิ
อัมเห อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ เยนะ สุเขนะจะฯ
ข้าแต่เทพราหู เทพแห่งโชคลาภอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
ข้าขอบูชาท่านด้วยของดำ 8 อย่าง
ขอให้ข้าฯปราศจากภัย และอันตรายใดๆ
ขอให้ท่านประทานพรโชคลาภความร่ำรวย


คลิ๊กนี้มีความหมาย

วัดใหม่คำวัน ต.ดงป่าคำ อ.เมือง จ.พิจิตร โทร.089-8585843 ,089-4609939

Copyright (c) 2006 by Your Name